ค่า BTU คืออะไร สำคัญแค่ไหน

ตอบข้อสงสัย? ค่า BTU คืออะไร สำคัญแค่ไหน และต้องเลือกแอร์ยังไง
ปกติเวลาเลือกซื้อแอร์ไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม สิ่งที่คนขายมักสอบถามคือ ต้องการขนาด BTU เท่าไหร่ หรือขนาดห้องประมาณเท่าใด เพื่อจะได้แนะนำยี่ห้อกับรุ่นที่เหมาะสม เชื่อว่าตรงนี้หลายคนยังคงเกิดข้อสงสัยว่า BTU คืออะไร มีความสำคัญมากแค่ไหน แล้วต้องเลือกแอร์ยังไงเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน มีคำตอบมาบอกแบบครบถ้วนแล้ว
ค่า BTU คืออะไร สำคัญมากแค่ไหน
British Thermal Unit หรือ ค่า BTU คือ หน่วยวัดค่าพลังงานความร้อนซึ่งใช้งานตามหลักมาตรฐานสากล พอถูกนำมาปรับใช้กับเครื่องปรับอากาศจึงให้ความหมายว่า ประสิทธิภาพการทำความเย็นต่อการถ่ายเทความร้อนภายออกจากพื้นที่ภายใน 1 ชั่วโมง หลักการคำนวณคือ ความร้อน 1 BTU จะเท่ากับ น้ำ 1 ปอนด์ และอุณหภูมิสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ 1 องศาฟาเรนไฮต์ นั่นจึงบอกได้ว่าหากแอร์ตัวไหนมีค่า BTU สูง ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพทำความเย็นสูงตามไปด้วย
คราวนี้เมื่อถามว่าการเลือกแอร์ที่มีค่า BTU สูง สำคัญมากแค่ไหน ก็ต้องว่ากันตามวัตถุประสงค์ใช้งาน หรือความพึงพอใจของผู้ใช้เป็นหลัก เพราะอย่าลืมว่ายิ่งค่าสูงก็เท่ากับต้องใช้พลังงานมาก ค่าไฟย่อมแพงกว่าเป็นเรื่องปกติ
เลือกแอร์จากค่า BTU อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน
ปกติแล้วการพิจารณาค่า BTU ก่อนซื้อแอร์เป็นสิ่งที่ทุกคนทำกันบ่อย ๆ แต่อาจไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริง หลักการอันแสนง่ายดายคือ สมมุติถ้าคุณซื้อแอร์ 12,000 BTU หมายถึง แอร์ดังกล่าวจะถ่ายเทความร้อนให้ออกจากพื้นที่ติดตั้งได้ 12,000 BTU ใน 1 ชั่วโมง
หากห้องมีขนาดใหญ่เกินไป ความร้อนก็ไม่สามารถระบายออกทัน ความเย็นฉ่ำจึงหายไป พอลดระดับอุณหภูมิลงอีก แอร์ทำงานหนักก็เปลืองไฟ แต่ถ้าห้องขนาดเล็กการซื้อแอร์ที่ BTU สูงเกินก็เท่ากับสิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ แถมแอร์ยังทำงานตามกำลังจึงกินไฟเพิ่มเติมอีกด้วย จึงขอแนะนำสูตรคำนวณง่าย ๆ ดังนี้
BTU = พื้นที่ห้องแบบตารางเมตร (กว้าง x ยาว) x ตัวแปรที่ทำให้เกิดความแตกต่าง
**ตัวแปรที่ทำให้เกิดความแตกต่างจะใช้เลขคำนวณคือ ห้องความร้อนน้อย ใช้แอร์ตอนกลางคืน 650-700, ห้องความร้อนสูง ใช้แอร์ตอนกลางวัน 700-800
อย่างไรก็ตามในการเลือกซื้อแอร์ตามค่า BTU อาจไม่ต้องปวดหัวกับการคำนวณอะไรขนาดนั้น คุณสามารถประเมินจากความรู้สึกของตนเองเบื้องต้นได้ เช่น ห้องนอน คอนโด ห้องรับแขก หรือออฟฟิศขนาดทั่วไป ใช้แอร์ระดับ 9,000 – 20,000 BTU ก็เพียงพอ แต่ถ้าห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ มีพื้นที่โถงพอสมควร เปิดร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านอาหาร ที่มีคนเข้าออกประจำ สำนักงานขนาดกลาง-ใหญ่ อาจเพิ่มเป็น 30,000 BTU ก็ไม่มีปัญหา จากนี้คงทำให้เข้าใจและเลือกซื้อกันง่ายขึ้นแน่ ๆ